เคล็ดลับการเลือกตัวขยายสัญญาณให้เหมาะกับบ้านของคุณ
คุณเคยประสบปัญหาสัญญาณ WiFi อ่อน หลุดบ่อย หรือไม่ครอบคลุมพื้นที่ใช้งานหรือเปล่า ในช่วงเวลาที่คุณกำลังดูการถ่ายทอดสดกีฬาที่คุณโปรดปราน หรือดูซีรีส์มาถึงจุดไคลแม็กซ์ของเรื่อง กลับเจอสัญญาณสะดุดจากการเชื่อมต่อ WiFi ที่ไม่เสถียร การเพิ่มตัวขยายสัญญาณให้บ้านคุณจึงเป็นตัวเลือกที่ดีเพื่อให้สัญญาณ WiFi เร็ว แรง ครอบคลุมทั่วถึงบ้านทั้งหลัง
ในยุคที่การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีความสำคัญ อุปกรณ์เราเตอร์ ตัวขยายสัญญาณกลายเป็นคู่หูที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกบ้าน โดยอุปกรณ์เราเตอร์จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการกระจายสัญญาณ WiFi ในขณะที่ตัวขยายสัญญาณจะช่วยเสริมให้การใช้งานครอบคลุมมากขึ้น TP-Link ได้พัฒนาให้อุปกรณ์เราเตอร์ ตัวขยายสัญญาณทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว ด้วยเทคโนโลยี OneMesh ที่ช่วยให้ตัวขยายสัญญาณสามารถส่งต่อข้อมูลจากอุปกรณ์เราเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้ใช้สามารถจัดวางตัวขยายสัญญาณในจุดที่เหมาะสมเพื่อขจัดจุดอับสัญญาณ ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตในบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง
วันนี้ เราจะมาแนะนำวิธีการเลือกตัวขยายสัญญาณให้เหมาะสมกับการใช้งานในบ้านของคุณกัน
- ตัวขยายสัญญาณ WiFi คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร?
- ทำไมคุณถึงจำเป็นต้องใช้งานตัวขยายสัญญาณ?
- ชนิดของตัวขยายสัญญาณ WiFi
- เทคนิคการเลือกตัวขยายสัญญาณให้เหมาะกับคุณ
- แนะนำ 12 ตัวขยายสัญญาณของ TP-Link ที่น่าสนใจ
ตัวขยายสัญญาณ WiFi คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร?
ประสิทธิภาพในการทำงานของเครือข่ายภายในบ้านจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ความเร็วของเครือข่าย สายรับส่งสัญญาณที่ใช้เป็นสายไฟเบอร์หรือสายทองแดง คลื่นสัญญาณรบกวน WiFi สิ่งกีดขวางสัญญาณ ผนัง ขนาดพื้นที่ที่ใช้งาน และแม้กระทั่งอุปกรณ์ที่ใช้งานล้วนมีผลกับคุณภาพการใช้งานทั้งสิ้น ตัวขยายสัญญาณ WiFi จึงทำหน้าที่ช่วยขยายสัญญาณ WiFi ในบ้านของคุณให้ไกลขึ้น แก้ปัญหา จุดอับสัญญาณ และสัญญาณอ่อนจากการใช้งานในจุดที่ห่างจากอุปกรณ์เราเตอร์ ให้สัญญาณ WiFi ของคุณครอบคลุมพื้นที่ใช้งานบ้านทั้งหลัง และตัวขยายสัญญาณสามารถใช้การเชื่อมต่อผ่านสายและแบบไร้สายร่วมกัน เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของคุณได้อีกด้วย
- RE Mode
เมื่อคุณเชื่อมต่อตัวขยายสัญญาณ WiFi เข้ากับอุปกรณ์เราเตอร์ของคุณแบบไร้สาย ตัวขยายสัญญาณจะรับสัญญาณจากอุปกรณ์เราเตอร์และกระจายต่อไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ อุปกรณ์ประเภทนี้จะมีชื่อว่า Range Extender
- AP (Access Point) Mode
เมื่อตัวขยายสัญญาณทำงานในโหมด AP อุปกรณ์จะเชื่อมต่อกับเราเตอร์ผ่านสาย LAN และกระจายสัญญาณ WiFi ไปยังอุปกรณ์ปลายทาง
ทำไมคุณถึงจำเป็นต้องใช้งานตัวขยายสัญญาณ?
ตามที่กล่าวไว้ในข้างต้น ตัวขยายสัญญาณ WiFi เหมาะสำหรับผู้ประสบปัญหาสัญญาณ WiFi อ่อนหรือไม่ครอบคลุมพื้นที่ใช้งาน เช่น บ้านที่มีขนาดใหญ่ มีหลายชั้น มีผนังปิดกั้นสัญญาณจำนวนมาก หรือต้องการขยายสัญญาณให้ครอบคลุมพื้นที่รอบบริเวณบ้าน โดยข้อดีของตัวกระจายสัญญาณมีดังนี้
- แก้ปัญหาสัญญาณ WiFi หรือขาดหาย
สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านขนาดใหญ่ มีจำนวนชั้นหลายชั้น อาจพบปัญหาสัญญาณ WiFi อ่อนในบางจุด หรือไม่มีสัญญาณเมื่ออยู่ห่างจากอุปกรณ์เราเตอร์ ตัวขยายสัญญาณ WiFi แบบ Powerline จะช่วยให้การกระจายสัญญาณ WiFi ไปยังพื้นที่และชั้นอื่น ๆ ของบ้านผ่านสายไฟ ทำให้ง่ายต่อการติดตั้งเป็นอย่างมาก
- กำจัดพื้นที่อับสัญญาณ
แม้ว่าจะมีการติดตั้งเราเตอร์หลายตัวในบ้านของคุณแล้วก็ตาม คุณอาจยังพบปัญหากับสัญญาณ WiFi จากปัจจัยรบกวนต่าง ๆ เช่น ระยะห่างจากเราเตอร์กับอุปกรณ์ที่คุณใช้ ผนังบ้าน หรือแม้กระทั่งคลื่นไมโครเวฟ ที่สามารถรบกวนสัญญาณ WiFi ของคุณจนเกิดจุดอับสัญญาณ การวางตัวขยายสัญญาณในบริเวณจุดอับสัญญาณจะช่วยให้สัญญาณ WiFi ครอบคลุมพื้นที่บ้านของคุณมากขึ้น ให้คุณเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างไม่มีสะดุด
- ขยายสัญญาณ WiFi ให้ครอบคลุมพื้นที่รอบบ้าน
หากคุณต้องการใช้ WiFi ในสวน พื้นที่หลังบ้าน ชานบ้าน หรือที่จอดรถหน้าบ้าน สามารถติดตั้งตัวขยายสัญญาณ เพื่อให้สัญญาณ WiFi ครอบคลุมพื้นที่ที่คุณต้องการใช้งาน ให้คุณวิดีโอคอลกับเพื่อนให้ขณะที่ดูภาพยนตร์เรื่องโปรดจากสวนหลังบ้านของคุณในเวลาเดียวกัน
ตัวขยายสัญญาณที่วางขายอยู่ในปัจจุบันแบ่งได้เป็น 3 ชนิดดังนี้
หากคุณเพิ่มตัวกระจายสัญญาณภายในบ้านของคุณ แต่ยังพบปัญหาการใช้งาน WiFi สะดุด หลุดบ่อย ในขณะที่คุณย้ายจุดใช้งานไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน คุณควรเลือกใช้งานตัวขยายสัญญาณชนิด Mesh WiFi ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องจุดอับสัญญาณและให้คุณใช้งาน WiFi ความเร็วสูง และมีคุณภาพสัญญาณที่สเถียร ครอบคลุมทุกจุดของบ้านอย่างไม่ขาดตอน ไม่ว่าคุณจะใช้งานที่ชั้นล่างสุดของบ้านหรือบนชั้นดาดฟ้า คุณก็สามารถใช้งาน WiFi ได้อย่างไม่มีสะดุด
อุปกรณ์เครือข่ายภายในบ้านทั่วไป การตั้งค่าและจัดการอุปกรณ์มักเป็นเรื่องยุ่งยาก แต่สำหรับระบบเครือข่าย Mesh WiFi ของ TP-Link จะให้อุปกรณ์เครือข่ายทุกตัวทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยกำหนดชื่อเครือข่าย WiFi รหัสผ่าน และการตั้งค่าเพียงครั้งเดียว และเมื่อมีการใช้งาน อุปกรณ์ขยายสัญญาณจะให้คุณเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่สัญญาณดีที่สุดโดยอัตโนมัติ ให้คุณใช้งาน WiFi ที่มีคุณภาพสัญญาณดี ได้อย่างต่อเนื่องอยู่เสมอ
Range extenders (ในผู้ผลิตบางรายจะเรียกว่า “repeaters”) มาพร้อมตัวขยายสัญญาณและเสารับส่งสัญญาณที่ทรงพลัง ทำหน้าที่รับสัญญาณจากอุปกรณ์เราเตอร์และทวนสัญญาณต่อ เพื่อให้ระยะส่งสัญญาณได้มากกขึ้นถึง 2 เท่าตัว เมื่อคุณเดินไปรอบ ๆ บ้านอุปกรณ์จะเลือกเชื่อมต่อกับเราเตอร์และตัวขยายสัญญาณอัตโนมัติ และเพื่อให้ได้คุณภาพสัญญาณที่ดี ควรวางอุปกรณ์ Range Extender ที่ตำแหน่งกึ่งกลางระหว่างเราเตอร์และจุดที่อับสัญญาณ
Powerline นั้นแตกต่างจาก อุปกรณ์ทั้ง 2 ชนิดข้างต้น เนื่องจาก Powerline จะขยายพื้นที่เครือข่ายภายในบ้านของคุณผ่านสายไฟ หากคุณต้องการให้สัญญาณ WiFi ของคุณครอบคลุมพื้นที่บ้านที่มีขนาดใหญ่หรือบ้านที่มีหลายชั้น แต่ไม่ต้องการเจาะผนังหรือฝ้าเพือลากสายแลนเพิ่ม การใช้ Powerline จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
หลักการทำงานของ Poiwerline นั้น จะใช้อุปกรณ์ 2 ตัว โดยตัวแรกจะรับสัญญาณ WIFi และส่งสัญญาณไปตามสายไฟ เพื่อให้อุปกรณ์ตัวที่สองรับสัญญาณและแปลงกลับมาเป็นสัญญาณ WiFi อีกครั้ง ซึ่งอุปกรณ์ทั้งตัวรับและตัวส่งนั้น จำเป็นต้องอยู่ในวงจรไฟฟ้าเดียวกันเพื่อให้สัญญาณสามารถรับส่งถึงกันได้
เทคนิคการเลือกตัวขยายสัญญาณให้เหมาะกับคุณ
เรามีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับการเลือกตัวขยายสัญญาณ WiFi ที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณมาแนะนำกัน โดยพิจารณาตามปัจจัยดังนี้
- แบบแปลนบ้านและรูปแบบของบ้าน : คุณควรพิจารณาเลือกตัวขยายสัญญาณจากแบบแปลนบ้านของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณประสบปัญหาการรบกวนสัญญาณ WiFi จากสิ่งกีดขวางต่าง ๆ เช่น ผนังคอนกรีต วัตถุที่เป็นโลหะ และคลื่นไมโครเวฟ หากคุณอาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียวแนะนำให้ติดตั้ง Range Extender เพื่อให้สัญญาณครอบคลุมมากขึ้น แต่สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านที่มีหลายชั้น ตัวบ้านจะมีหนังที่หนาและมีหนังหลายชั้น ส่งผลต่อความเข้มข้นของสัญญาณ แนะนำให้ใช้อุปกรณ์ Powerline เพื่อคุณภาพสัญญาณที่ดี
- การติดตั้ง : หากคุณกำลังมองหาอุปกรณ์เครือข่ายที่สามารถติดตั้งและจัดการได้ง่าย ระบบ Mesh WiFi เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ การติดตั้งอุปกรณ์ Powerline อาจมีความยุ่งยากเนื่องจากต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์รับส่งอยู่ภายใต้วงจรไฟฟ้าเส้นเดียวกัน
- ช่องจ่ายไฟเสริม : หากปลั๊กไฟในห้องของคุณมีจำกัด คุณสามารถเลือกใช้งาน Powerline ที่มีช่องจ่ายไฟในตัว คุณสมบัตินี้จะช่วยให้คุณณสามารถใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าไปพร้อมกับที่อุปกรณ์เครือข่ายกระจายสัญญาณ WiFi
- มูลค่าของสินค้า : โดยทั่วไป อุปกรณ์ เครือข่าย Mesh WiFi จะมีราคาวสูง รองลงมาเป็นอุปกรณ์ Range Extender และ Powerline Adapter ที่มีราคาถูกสุดในอุปกรณ์ทั้ง 3 ชนิด
หากคุณยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกตัวขยายสัญญาณ ตารางข้อมูลด้านล่างนี้อาจช่วยคุณในการตัดสินใจได้
การเปรียบเทียบ |
Mesh WiFi |
Range Extender |
Powerline Adapter |
บ้านชั้นเดียว |
⭐⭐⭐⭐⭐ |
⭐⭐⭐⭐⭐ |
⭐⭐⭐⭐⭐ |
บ้านหลายชั้น |
⭐⭐⭐⭐⭐ |
⭐⭐⭐ |
⭐⭐⭐⭐⭐ |
วิธีกระจายสัญญาณ |
ผ่านสายและไร้สาย |
ไร้สาย |
Powerline |
เงื่อนไขในการใช้งาน |
ไม่มี |
ไม่มี |
ต้องติดตั้งอุปกรณ์ภายใจ้วงจรไฟฟ้าเส้นเดียวกัน |
ความง่ายในการตั้งค่า |
ตั้งค่าและจัดการได้ง่าย |
การตั้งค่า WiFi |
การตั้งค่า WiFi แบบ One-touch |
คุณภาพสัญญาณ |
ดีเยี่ยม |
ตามมาตรฐาน |
ดี |
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ |
• สร้างเครือข่ายแบบไร้รอยต่อ ภายใต้ชื่อเครือข่าย WiFi เดียวกัน • วางอุปกรณ์ได้ทุกที่ • มีการเชื่อมต่อเครือข่ายที่เสถียรและมีระยะไกล • ศูนย์กลางอุปกรณ์ IoT : สั่งการอุปกรณ์สมาร์ทโฮมได้ • เทคโนโลยี Deco Mesh (มีเฉพาะในผลิตภัณฑ์ TP-Link Deco เท่านั้น) |
• ทำงานร่วมกันกับเราเตอร์ • วางอุปกรณ์ได้ทุกที่ • AC Passthrough (เฉพาะบางรุ่น) • OneMeshTM (ใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์ TP-Link) • EasyMesh (ใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์ที่รองรับ EasyMesh เท่านั้น) 1 |
• ติดตั้งกับพื้นหรือผนัง • การเชื่อมต่อระยะไกลที่ไว้วางใจได้ • กระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านเต้าเสียบ • รองรับการใช้งานร่วมกับ HomePlug และ G.hn2 • AC Passthrough (เฉพาะบางรุ่น) |
ช่วงราคา |
ราคาสูงไปถึงปานกลาง |
ราคาปานกลาง |
ราคาปานกลางไปถึงต่ำ |
⭐: ดัชนีคำแนะนำ
12 ตัวขยายสัญญาณ WiFi ของ TP-Link ที่น่าสนใจ
รายชื่อ 12 อุปกรณ์ขยายสัญญาณของ TP-Link ที่น่าสนใจ โดยแบ่งเป็น อุปกรณ์ Mesh WiFi, Range Extender, และ Powerline Adapters.
Model |
||||
Images |
||||
Positioning |
Entry-Level WiFi 6E Mesh WiFi Solution |
The Most Comprehensive Mesh WiFi 6 Solution |
Multi-Scenario Mesh WiFi Meets All Your Needs |
Extend Your WiFi Network Outdoors |
Wi-Fi Bands |
Tri-Band |
Dual Band |
Dual Band |
Dual Band |
Wi-Fi Class |
AXE5400 |
AX3000 |
AX3000 |
AX3000 |
Speed |
2402 Mbps (6 GHz) + 2402 Mbps (5 GHz) + 574 Mbps (2.4 GHz) |
2402 Mbps (5 GHz) + 574 Mbps (2.4 GHz). |
2402 Mbps (5 GHz) + 574 Mbps (2.4 GHz). |
2402 Mbps (5 GHz) + 574 Mbps (2.4 GHz). |
Wi-Fi Coverage |
Up to 5,500 sq. ft. (2-pack) |
Up to 4,500 sq. ft. (2-pack) |
Up to 4,500 sq. ft. (2-pack) |
Up to 4,500 sq. ft. (2-pack) |
Capacity |
Up to 200 Devices |
Over 150 Devices |
Over 150 Devices |
Over 150 Devices |
Ethernet Ports |
3× Gigabit Ports |
3× Gigabit Ports |
1× 2.5 Gbps Port + 1× Gigabit Port |
2× Gigabit Ports |
Seamless AI-Driven Mesh |
Intelligently learns your network environment to provide the ideal WiFi unique to your home. |
|||
TP-Link HomeShield |
Provides comprehensive network protection, robust parental controls, real-time IoT security, and QoS. |
|||
160 MHz Channel |
Doubles the bandwidth and enables many more simultaneous transmissions at the fastest possible speeds.3 |
|||
Deco App |
Set up and manage your network anytime and anywhere on the user-friendly Deco app. It walks you through setup step by step. |
|||
Works with Other Decos |
Compatible with every other Deco model to form a Mesh network. |
|||
Works with Amazon Alexa and Google Assistant |
Use an Amazon Alexa or Google Assistant-enabled device to control Deco with just your voice. |
|||
Other Highlights |
• Brand New 6 GHz Band – Minimizes congestion with greenfield spectrum, delivering robust high-speed connections. |
• Functional and Beautiful – Its delicate body case perfectly blends into various home decorations. |
• PoE Supported – Power over Ethernet for simplified network deployment. |
• Ideal for Fast Outdoor WiFi – IP65 waterproof and dustproof for outdoor use. |
Model |
||||
Images |
||||
Wi-Fi Class |
AXE5400 |
AX6000 |
AX1800 |
AX1500 |
Wi-Fi (2.4 GHz) |
574 Mbps |
1148 Mbps |
574 Mbps |
300 Mbps |
Wi-Fi (5 GHz) |
2402 Mbps |
4804 Mbps |
1201 Mbps |
1201 Mbps |
Wi-Fi (6 GHz) |
2402 Mbps |
|
|
|
Ethernet Ports |
1x Gigabit Port |
1x 2.5 Gbps Port + 2x Gigabit Ports |
1x Gigabit Port |
1x Gigabit Port |
MU-MIMO |
● |
● |
● |
● |
Beamforming |
● |
● |
● |
● |
OneMeshTM |
● |
● |
● |
● |
EasyMesh1 |
● |
● |
● |
● |
Signal Indicator |
● |
● |
● |
● |
Tether App |
● |
● |
● |
● |
AP Mode |
● |
● |
● |
● |
WPS Button |
● |
● |
● |
● |
Multi-Language |
● |
● |
● |
● |
High Speed Mode |
- |
● |
● |
● |
Power Schedule |
● |
● |
● |
● |
LED Control |
● |
● |
● |
● |
Access Control |
● |
● |
● |
● |
Model |
|||||||
Images |
|||||||
Sub-model |
1× PGW2440 |
1× PG2400P |
2× PG1200 |
TL-WPA8631P |
TL-PA8010P |
TL-WPA7617 |
TL-PA7017P |
Protocol |
G.hn MIMO |
G.hn SISO |
HomePlug AV2 |
HomePlug AV2 |
|||
Powerline Speed |
1428 Mbps |
1428 Mbps |
607 Mbps |
1300 Mbps |
1000 Mbps |
||
Wi-Fi Class |
AX1800 |
N/A |
N/A |
AC1200 |
N/A |
AC1200 |
N/A |
Wi-Fi (2.4 GHz) |
574 Mbps |
N/A |
N/A |
300 Mbps |
N/A |
300 Mbps |
N/A |
Wi-Fi (5 GHz) |
1201 Mbps |
N/A |
N/A |
867 Mbps |
N/A |
867 Mbps |
N/A |
Gigabit Ports |
1 |
2 |
1 + 1 |
3 |
1 |
1 |
1 |
Power Socket |
- |
● |
- |
● |
● |
- |
● |
Wi-Fi Auto-Sync |
● |
- |
- |
● |
- |
● |
- |
Web UI |
● |
● |
● |
● |
- |
● |
- |
Utility |
● |
● |
● |
● |
● |
● |
● |
OneMeshTM |
● |
- |
- |
● |
- |
● |
- |
MU-MIMO |
● |
- |
- |
● |
- |
||
QoS |
● |
● |
● |
● |
● |
||
Power Saving |
- |
● |
● |
- |
- |
###
เกี่ยวกับ TP-Link
TP-Link ให้บริการอุปกรณ์เครือข่ายสำหรับใช้งานตามบ้านและสำหรับธุรกิจองค์กรทั่วโลก โดยก่อตั้งขึ้นในปี 1996 และบริษัทมีการเจริญเติบโตจนมาเป็นผู้นำตลาดทั่วโลกมาจนถึงทุกวันนี้
คุณสามารถพบอุปกรณ์อัจฉริยะที่ไว้วางใจได้ของเราเชื่อมต่อกับผู้คนกว่า 1.7 พันล้านคนในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก โดยได้รับการสำรวจจากบริษัทวิเคราะห์ IDC จัดอันดับให้เราเป็นผู้ให้บริการอุปกรณ์เครือข่าย Wi-Fi อันดับ 1 มานานกว่าทศวรรษ*
เราให้ความสำคัญกับวิถีชีวิตของคนในปัจจุบันที่ต้องมีการเชื่อมโยงถึงกันตลอดเวลา ผลิตภัณฑ์ของเรามีเทคโนโลยีที่ใหม่ล่าสุดและออกแบบมาเพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตองสนองความต้องการใช้งาน WiFi ที่ครอบคลุมมากขึ้น โดย TP-Link มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้ตามบ้าน ธุรกิจองค์กร เครือข่ายผู้ให้บริการ ระบบรักษาความปลอดภัย และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับความเสถียร ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่าในผลิตภัณฑ์ของเรา
เมื่อชีวิตของเราเชื่อมต่อกันมากขึ้น TP-Link จะยังคงมุ่งพัฒนาและสำรวจความต้องการใหม่ ๆ ต่อไปในอนาคต
ติดตามข้อมูลข่าวสาร TP-LINK ผ่านทางเว็บไซด์ www.tp-link.com หรือโซเชียลมีเดีย
- Facebook: facebook.com/tplinkth
- YouTube: www.youtube.com/@TPLINK-TH
1 TP-Link EasyMesh-compatible products can network with other devices that use EasyMesh. Failed connections may be due to firmware conflicts of different vendors. The EasyMesh-Compatible function is still being developed on some models and will be supported in subsequent software updates.
2 G.hn powerline adapters are not compatible with HomePlug AV/AV2 powerline adapters.
3 The 160 MHz bandwidth might not be available on the 5 GHz band in some regions/countries due to regulatory limits on the spectrum, hence the theoretical speeds might vary. The double channel width and speed refer to 160 MHz compared to 80 MHz for WiFi 6 products.