Check list สาย DIY อยากวางระบบ Network เอง ต้องทราบ
อุปกรณ์ไหนบ้างที่ต้องมีในการวางระบบ Network ?
อุปกรณ์ไหนบ้างที่ต้องมีในการวางระบบ Network และหากต้องการติดตั้งระบบ Network สำนักงาน ระบบ Network ด้วยตนเองควรเริ่มตรวจสอบอะไรบ้างเพื่อที่จะสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย
ในทุกวันนี้มีบ้านที่เป็นสำนักงานขนาดเล็กเป็นส่วนมาก หากแต่จะทำยังไงให้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย บทความนี้จะช่วยแนะนำสิ่งที่คุณต้องรู้ หากจะติดตั้งอินเทอร์เน็ตที่บ้านสำหรับธุรกิจด้วยตัวเอง รวมถึงแนะนำอุปกรณ์ใดบ้างที่ควรมี และควรเริ่มตรวจสอบอะไรบ้างสำหรับธุรกิจของคุณ
อุปกรณ์ไหนบ้างที่ต้องมีในการวางระบบ Network
เนื่องจากการใช้งานที่แตกต่างกัน เราเตอร์แบ่งออกเป็นสองประเภท คือเราเตอร์ SOHO และเราเตอร์ SMB
เราเตอร์ SOHO มักจะใช้ภายในบ้าน ในขณะที่เราเตอร์ SMB หรือ Load Balance Router ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานสำหรับองค์กรธุรกิจ เราเตอร์สำหรับองค์กรจะมีฟีเจอร์ที่รองรับมากกว่าอย่างเช่น Load Balance , Link Back up และ Policy Routing ที่มากกว่าเราเตอร์ SOHO ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากกว่า
|
|
Router
|
SMB Router
|
1. SMB Router/Load balance Router
เราเตอร์ตัวหลักสำคัญในการใช้งานระบบ Network สำนักงาน Network ระดับองค์กร จริงอยู่ที่เรามักจะได้รับอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการมาอยู่แล้ว แต่ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากต่อทุกธุรกิจ ข้อดีของ Load balance router คือคุณสามารถจัดการสำหรับผู้เข้าใช้งานได้ มีฟีเจอร์ที่สำคัญ ๆ ต่อธุรกิจ อย่างเช่น Captive potal ที่จำเป็นจะต้องใส่ Username / Password ก่อนใช้งานอินเทอร์เน็ต หรือการบล็อกเว็บไซต์ต่างๆที่ไม่เหมาะสม
แม้แต่การสร้างเครือข่าย Guest Network สำหรับผู้ใช้งานภายนอกก็สามารถทำได้อีกด้วย
Load balance ของ TP-Link มีด้วยกัน 2 รุ่น คือ ER7206 รองรับได้สูงสุด 300 Clients และ ER605 รองรับเริ่มต้นได้ถึง 50 Clients
Load balance สำคัญต่อการวางระบบ Network ยังไง?
Load Balance จะช่วยกำหนดเส้นทางคำขอของไคลเอนต์ในเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเซิร์ฟเวอร์ที่ทำงานหนักเกินไปที่อาจทำให้ประสิทธิภาพเครือข่ายลดลง
TL-ER7206 และ ER205 รองรับ IPSec/PPTP/L2TP VPN ผ่านโปรโตคอล IPSec/SSL ด้วยการออกแบบฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลัง เราเตอร์รองรับและจัดการได้ถึง 100× LAN-to-LAN IPSec, 50× OpenVPN*, 50× L2TP และ 50× PPTP VPN การเชื่อมต่อ IPSec VPN อัตโนมัติในคลิกเดียว* ช่วยให้การกำหนดค่า VPN ง่ายขึ้นอย่างมาก และอำนวยความสะดวกในการจัดการและปรับใช้เครือข่าย ขณะเดียวกันก็รักษาความปลอดภัยและเข้ารหัสการสื่อสารข้อมูลระหว่าง
นอกจากฟีเจอร์ความปลอดภัยที่ใส่เข้ามาแล้ว Load Balance ยังได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีสำหรับการใช้งานที่ทนทานกว่าเราเตอร์บ้านทั่วไป
ฟีเจอร์ความปลอดภัยบน Load Balance Router
- SPI Firewall
- VPN Passthrough
- FTP/H.323/PPTP/SIP/IPsec ALG
- DoS Defence, Ping of Death
- Local Management
- IP/MAC/URL Filtering
นอกจากนี้ Load balance สามารถรวมอินเทอร์เน็ตได้สูงสุด 4 ISP Load Balance จะทำหน้าที่เป็นเหมือนตำรวจจราจร ที่คอยดูแลเส้นทางของคุณและกำหนดเส้นทางเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีเส้นทางใดทำงานหนักเกินไปที่อาจจะทำให้ประสิทธิภาพลดลง รองรับพอร์ต multi wan เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมากกว่า 1 ผู้ให้บริการ เช่นในกรณีที่ผู้ให้บริการเจ้าใดเจ้าหนึ่งให้บริการไม่ได้ เราก็ยังมีเส้นทางที่ต่อจากผู้ให้บริการอื่นที่จะเปลี่ยนเส้นทางการรับ-ส่งข้อมูลไปยังเส้นทางอื่นที่ยังออนไลน์อยู่
ความสำคัญของพอร์ตบนเราเตอร์สำหรับธุรกิจ
Load balance Router/SMB Router มีพอร์ตสองประเภท: พอร์ต WAN และพอร์ต LAN
พอร์ต WAN ใช้สำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายภายนอก เช่น อินเทอร์เน็ตหรือเราเตอร์อื่นๆ พอร์ต LAN ใช้สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ในเครือข่ายภายในของคุณ เช่น สวิตช์หรือคอมพิวเตอร์
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับเราเตอร์ --- พอร์ตของเราเตอร์ SMB
- Fixed WAN Port พอร์ต WAN แบบคงที่และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
- Changeable WAN/LAN Ports พอร์ตสามารถปรับเปลี่ยนกำหนดค่าเป็นพอร์ต WAN หรือพอร์ต LAN ด้วยตนเอง
- Fixed LAN Port พอร์ต LAN แบบคงที่และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
Switch คืออุปกรณ์ศูนย์กลางที่ทำหน้าที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ในเครือข่ายให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ จัดการระบบ Network และรองรับการเชื่อมต่อพอร์ตอีเธอร์เน็ตที่มากขึ้น เพื่อขยายการเชื่อมต่อให้ได้มากขึ้น
ในกรณีที่ธุรกิจของคุณจำเป็นต้องเชื่อมต่อทั้งคอมพิวเตอร์ , กล้องวงจรปิด (Security Camera) , กล้องวงจรปิดสำนักงาน, เครื่องปริ้นเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่ต้องใช้เสียบสาย LAN พอร์ตที่ได้มาจากเราเตอร์จะมีจำนวนเพียงแค่ 3-4 พอร์ต ไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องมี switch มาช่วย
ส่วนใหญ่แล้วอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อระบบ Network บนองค์กร หรือระบบ Network สำนักงานส่วนมากจะเป็นคอมพิวเตอร์หรือเครื่องปริ้นท์ที่จำเป็นต้องเชื่อมต่อโดยใช้สาย LAN ที่ต้องการความปลอดภัยสูง คุณจึงจำเป็นต้องเลือก Switch ที่มีจำนวนพอร์ตเหมาะสม
สำหรับการเลือกตัวกระจายสัญญาณ Wi-Fi คือต้องเลือกแบรนด์ที่ได้มาตรฐาน และฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้งาน ท่านต้องคำนึงก่อนว่า อุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่เชื่อมต่อเป็นอุปกรณ์ประเภทใด ต้องการความเร็วมากแค่ไหน เราแนะนำว่า ควรใช้อุปกรณ์แบบ Dual Band ขึ้นไป หรือถ้าหากคุณมีอุปกรณ์ที่รองรับ Wi-Fi 6 จำนวนมากแล้วต้องการประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่ง เราแนะนำให้คุณเลือก Access Point ที่รองรับ Wi-Fi 6 สำหรับการใช้งาน
หรือหากคุณต้องการใช้งานฟีเจอร์ Mesh WiFi ก็สามารถเลือกเราเตอร์ที่รองรับฟีเจอร์นี้ได้เช่นกัน ลักษณะเด่นของฟีเจอร์นี้ คือสัญญาณจะครอบคลุมกระจายทั่ว ใช้งานชื่อเดียวกันทั้งหมด ทำให้ไม่ต้องมาคอยสลับย่านความถี่ อีกทั้งยังง่ายต่อการเพิ่มโหนดอีกด้วย
ฉันต้องเริ่มตรวจสอบอะไรบ้างบนธุรกิจของตนเอง
- ศึกษาแปลนของสำนักงานหรือธุรกิจของคุณ
คุณจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า พื้นที่ตรงไหนบ้างของธุรกิจคุณสามารถเดินสาย LAN ได้ เพราะการเชื่อมต่อผ่านสาย LAN จะได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุด - เลือกผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต
คุณต้องศึกษาและตรวจสอบว่าพื้นที่ของคุณเหมาะสมที่จะใช้ผู้ให้บริการคนไหน มีความเร็วอินเตอร์เน็ต อัพโหลด/ดาวน์โหลดเท่าใด เพียงพอมั้ยสำหรับธุรกิจของคุณ - ตรวจสอบช่องเดินสายไฟ
อุปกรณ์เน็ตเวิร์คจำเป็นต้องเดินสายไฟ คุณจำเป็นต้องศึกษาแปลนของธุรกิจของคุณมีช่องเดินสายไฟที่เพียงพอต่ออุปกรณ์ อย่างเช่น คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์บางอย่างอาจติดตั้งรุ่นที่รองรับ PoE Switch เพื่อประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินสายไฟได้ เช่น กล้องวงจรปิด (Security Camera) กล้องวงจรปิดสำนักงาน แต่บางอย่างเช่น คอมพิวเตอร์หรือเราเตอร์ จำเป็นต้องเสียบปลั๊กไฟ คุณจึงควรตรวจสอบให้พร้อม ก่อนติดตั้งระบบ Network
4. คุณจำเป็นต้องมีเซิร์ฟเวอร์สำหรับธุรกิจ
เมื่อคุณมีคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไปในธุรกิจของคุณ ควรจะต้องมีเซิร์ฟเวอร์กลางเพื่อเข้าถึงซอร์ฟแวร์หรือเอกสารเดียวกันได้ในทุกที่ และให้คุณควบคุมสิทธิ์ในการเข้าถึงบางข้อมูล นอกจากนี้ยังมีประโยชน์มากในการสำรองข้อมูลและการกู้คืน เพื่อความปลอดภัยของเครือข่าย
ระบบ Network หรือระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจยุคดิจิทัล โดยเป็นระบบที่เชื่อมต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เข้าด้วยกันผ่านสื่อกลางทั้งแบบมีสายและไร้สาย เพื่อให้สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ใช้ทรัพยากรร่วมกัน และติดต่อสื่อสารระหว่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบ Network ที่ดีจะต้องมีการออกแบบโครงสร้างที่เหมาะสม มีการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม และสามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคตได้ นอกจากนี้ ระบบ Network ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจผ่านการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียร การจัดการข้อมูลที่เป็นระบบ และการประสานงานที่ราบรื่นระหว่างทีมงานทั้งภายในและภายนอกองค์กร
TP-Link นำเสนอโซลูชันระบบ Network ที่ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพสูงสำหรับธุรกิจและสำนักงานขนาดเล็กถึงขนาดกลาง โดยระบบ Network จาก TP-Link ประกอบด้วยอุปกรณ์หลักอย่าง SMB Router หรือ Load Balance Router ที่มาพร้อมฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูงและการจัดการแบนด์วิดท์อย่างมีประสิทธิภาพ Network Switch ที่ช่วยขยายการเชื่อมต่อและจัดการอุปกรณ์ในเครือข่ายได้อย่างยืดหยุ่น และตัวกระจายสัญญาณ WiFi ที่รองรับเทคโนโลยีล่าสุดเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่การใช้งานอย่างทั่วถึง ระบบ Network จาก TP-Link ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย มีความปลอดภัยสูง และสามารถปรับขยายได้ตามการเติบโตของธุรกิจ ทำให้เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับองค์กรที่ต้องการระบบ Network ที่มีประสิทธิภาพ เสถียร และตอบโจทย์การใช้งานทั้งในปัจจุบันและอนาคต
สรุป
ถึงแม้ว่าระบบเครือข่ายขนาดเล็กจะมีข้อกำหนดและความซับซ้อนไม่เท่ากับองค์กรขนาดใหญ่ สำหรับการออกแบบควรที่จะเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง ปลอดภัย และสามารถปรับขนาดได้ในกรณีที่องค์กรโตขึ้น เครือข่ายจำเป็นจะต้องขยายตามได้อย่างรวดเร็ว
ค้นพบเราเตอร์ที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้คุณสามารถวางระบบ Network เพื่อการใช้งานระบบรักษาความปลอดภัย อุปกรณ์สมาร์ทโฮม ตลอดจนกล้องวงจรปิด กล้องวงจรปิดไร้สาย IoT CCTV หุ่นยนต์ดูดฝุ่น หุ่นยนต์ทำความสะอาด WiFi Camera อุปกรณ์อัจฉริยะ Security Camera ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยเราเตอร์ Wi-Fi ประสิทธิภาพสูง ใช้งานง่าย มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ จาก TP-Link สุดยอดผู้นำด้านเราเตอร์โมเด็มแบบครบวงจร