พอร์ต Multi-Gig : มาทำความรู้จักและแนะนำวิธีการใช้งานกัน
สำหรับคนส่วนใหญ่ที่พักอาศัยอยู่เพียงไม่กี่คน การใช้งานพอร์ตกิกะบิต นั้นเพียงพอต่อการใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับการใช้งานในออฟฟิศขนาดเล็ก หรือครอบครัวใหญ่ที่มีสมาชิกในครอบครัวหลายท่าน ซึ่งมีอุปกรณ์ที่ใช้งานภายในเครือข่ายจำนวนมาก พอร์ตกิกะบิตอาจไม่พอสำหรับการใช้งานเครือข่ายในปัจจุบัน
ซึ่งในปัจจุบัน เทคโนโลยีการรับส่งข้อมูลทั้งแบบมีสายและแบบไร้สายต่างมีการพัฒนาเพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่สูงขึ้น เช่น เทคโนโลยี Wi-Fi 7 ที่เป็นมาตรฐานที่มาปรับปรุงความเร็วในการรับส่งข้อมูลและประสิทธิภาพในการใช้งานได้สูงมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหลายเจ้าก็มีการออกแพ็กเกจบริการอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานเช่นกัน
ซึ่งในส่วนของการเชื่อมต่อแบบมีสายก็มีการพัฒนาให้รองรับความเร็วที่สูงกว่า 1 กิกะบิต เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันและอนาคต ที่เรารู้จักกันในชื่อ Multi-Gig โดยบทความนี้เรามาทำความรู้จักกับพอร์ต Multi-Gig ให้มากขึ้นกัน
คุณจำเป็นต้องใช้งานพอร์ต Multi-Gig หรือไม่?
คุณควรอัพเกรดอุปกรณ์ Muiti-Gig หรือไม่?
การอัพเกรดเครือข่ายของคุณให้รองรับความเร็วแบบ Multi-Gig
ค้นหาผลิตภัณฑ์ Multi-Gigabit ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
พอร์ต Multi-Gig คืออะไร?
Multi-Gig Ethernet เป็นชื่อเรียกที่อ้างอิงความเร็วในการเชื่อมต่อรับส่งข้อมูลที่สูงกว่า 1 กิกะบิต อย่างไรก็ตาม เมื่อเราศึกษาข้อมูลทางเทคนิคให้ละเอียดขึ้น การเชื่อมต่อระดับ Multi-Gig ซึ่งโดยทั่วไปหมายถึงการเชื่อมต่อกับพอร์ตเครือข่าย BASE-T RJ45 ที่รองรับความเร็วตั้งแต่ 1 Gbps ถึง 10 Gbps และที่สำคัญกว่านั้นคือพอร์ตเหล่านี้ยังคงเข้ากันได้กับอุปกรณ์ในรุ่นเก่ากว่าอีกด้วย
แรกเริ่มเดิมที แนวคิดของพอร์ต Multi-Gig ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างจนกระทั่งมาตรฐาน NBASE-T 802.3bz ได้ถูกเปิดตัวในปี 2559 ก่อนที่จะออก เครือข่ายอีเทอร์เน็ต 10G ซึ่งสามารถใช้งานกับสายเคเบิล Cat6a เท่านั้น เนื่องจากสายเคเบิล Cat5e และ Cat6 ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย รองรับการใช้งานเครือข่ายที่ความเร็วสูงถึง 1 กิกะบิตเท่านั้น และอุปกรณ์ที่มาพร้อมพอร์ต 1-Gigabit และ 10-Gigabit Ethernet ที่เป็นพอร์ตสวิตช์ 10GBASE-T รุ่นแรก ๆ ก็ไม่รองรับความเร็วในระดับกลาง ด้วยเหตุนี้ หากคุณต้องการใช้งานอุปกรณ์ network-attached storage (NAS) ที่รองรับความเร็ว 5 Gbps และเชื่อมต่อกับพอร์ต 10G บนอุปกรณ์เราเตอร์ อุปกรณ์ NAS จะไม่สามารถรับส่งข้อมูลได้เต็มความเร็ว เนื่องจากพอร์ต 10G รุ่นเก่าไม่สามารถรองรับความเร็วระหว่าง 1-10G เหมือนพอร์ต Multi-Gig
ต่อมาได้มีมาตรฐาน 802.3bz เกิดขึ้น ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ 2.5GBASE-T และ 5GBASE-T ที่สามารถทำงานด้วยความเร็ว 2.5G, 5G, และสูงถึง 10G ผ่านสายเคเบิล Cat5e และ Cat6 ทำให้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสำหรับองค์กรและการใช้งานตามบ้าน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบนั้นลดลง และไม่จำเป็นต้องดกินสาย Cat6e ใหม่เพื่อให้รองรับความเร็วที่สูงขึ้น อีกทั้งตัวอุปกรณ์สามารถจัดการการรับส่งข้อมูลได้ตามการรองรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้มากขึ้น (10 Mbps / 100 Mbps / 1 Gbps / 2.5 Gbps / 5 Gbps / 10 Gbps)
ช่วยให้อุปกรณ์รับส่งข้อมูลด้วยความเร็วเต็มประสิทธิภาพได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น เช่น หากเราใช้งานอุปกรณ์ที่มีพอร์ต 2.5G อุปกรณ์นั้น ๆ ก็จะรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ด้วยคามเร็ว 10 Mbps, 100 Mbps, 1 Gbps, และ 2.5 Gbps เป็นต้น
คุณจำเป็นต้องใช้งานพอร์ต Multi-Gig หรือไม่?
หากคุณเป็นเหมือนคนส่วนใหญ่ที่ต้องการการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีพอร์ต Multi-Gig จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีมากขึ้น เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการใช้งาน พอร์ต Multi-Gig ในอุปกรณ์เราเตอร์รุ่นใหม่ ๆ จึงออกแบบมาให้รองรับการใช้งานโหมด WAN และ LAN เพื่อการใช้งานตามบ้านที่แสนรวดเร็ว
ใช้งานพอร์ต Multi-Gig ที่รองรับ WAN เพื่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการ
ทุกวันนี้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหลายเจ้ามีให้บริการแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกว่า 1 Gbps ด้วยราคาที่คุณเอื้อมถึง ในกรณีนี้ การใช้อุปกรณ์ที่มาพร้อมพอร์ต WAN ที่รองรับความเร็ว Multi-Gig จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เป็นเรื่องง่ายที่คุณจะตัดสินใจเปลี่ยนอุปกรณ์เราเตอร์ที่มาพร้อมกับพอร์ต Multi-Gigabit หากคุณใช้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีความเร็ว 1 Gbps หรือสูงกว่า คุณควรเลือกใช้อุปกรณ์เราเตอร์หรืออุปกรณ์ Mesh WiFi ที่มาพร้อมพอร์ต Multi-Gigabitเพื่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการได้อย่างเต็มสปีด อุปกรณ์เราเตอร์ที่มาพร้อมพอร์ต Gigabit อาจใช้งานได้ไม่เต็มความเร็ว 1 Gbps เนื่องมาจากการแชร์แบนด์วิธกันของพอร์ต Ethernet ดังนั้น อุปกรณ์เราเตอร์แบบ Multi-Gig จึงสามารถให้แบนด์วิธได้เพียงพอต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เต็มแพ็กเกจ
ใช้งานพอร์ต Multi-Gig LAN Ports for Super-Fast Transfer Rates
ตามหลักการแล้ว หากคุณมีอุปกรณ์เราเตอร์ที่มีพอร์ต Multi-Gig มากกว่า 1 ช่อง คุณสามารถใช้ช่องหนึ่งเพื่อการเชื่อมต่อ WAN เพื่อการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เต็มความเร็วตามแพ็กเกจ และใช้ช่องที่เหลือสำหรับการเชื่อมต่อ LAN เพื่อรับส่งข้อมูลในระดับ Multi-Gigabit ได้อย่างสเถียรมากขึ้น ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ในการใช้งานไปอีกระดับ เช่น การเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลเมื่อเชื่อมต่อเกมมิ่งพีซีเข้ากับเครือข่ายด้วยพอร์ต Multi-Gig LAN หรือนำพอร์ต Multi-Gig มาใช้ในการเชื่อมต่ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลผ่านเครือข่ายสำหรับใช้ภายในบ้านหรือออฟฟิศขนาดเล็ก
โดยทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลผ่านเครือข่าย (NAS) เข้ากับอุปกรณ์เราเตอร์ด้วยพอร์ต Multi-Gig LAN ให้คุณสามารถรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วในการรับส่งข้อมูลนี้ ทำให้สามารถเรียกใช้งานไฟล์วิดีโอหรือรูปภาพขนาดใหญ่จากอุปกรณ์ NAS มาเพื่อใช้งานตัดต่อได้โดยไม่ต้องโหลดข้อมูลมาเก็บไว้ในเครื่อง และส่งข้อมูลไปจัดเก็บไว้ใน NAS ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยพอร์ต 10G และ 2.5G นี้ จะช่วยประหยัดเวลาในการทำงานและลดค่าใช้จ่ายลงเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้งานพอร์ต Gigabit
คุณควรอัพเกรดอุปกรณ์ Muiti-Gig หรือไม่?
เทคโนโลยีไร้สายมีการอัพเกรดทุกปีเพื่อรองรับความต้องการของผู้ใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น นั่นคือเหตุผลที่ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ออกใหม่มักจะมาพร้อมกับพอร์ต Multi-Gig เพื่อคลายข้อสงสัย อยากให้คุณลองตอบคำถามว่า คุณจำเป็นต้องใช้งาน Multi-Gig Ethernet หรือไม่?
เพื่อตอบคำถามนี้ คุณควรพิจารณาเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ที่มีพอร์ต Multi-Gig Ethernet หากคุณ…
>กำลังมองหาโซลูชันอุปกรณ์เครือข่ายสำหรับบ้านที่รองรับการใช้งานในอนาคตเมื่อคุณกำลังตกแต่งบ้านใหม่
>มีการใช้งานเครือข่ายพร้อมกันหลายคนหรือมีอุปกรณ์ใช้งานพร้อมกันจำนวนมาก
>มีการรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่เป็นประจำ เช่น ภาพยนตร์ความละเอียดสูง 4K, ไฟล์โปรเจกต์, หรือการเล่นเกมร่วมกับอุปกรณ์หลายเครื่อง
>เป็นผู้ผลิตสื่อที่กำลังมองหาโซลูชันที่เหมาะสมกับการเข้าถึงและจัดการไฟล์จำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว
>เกมเมอร์ที่กำลังมองหาการอัพเกรดเครือข่ายให้ตอบสนองต่อการแข่งขันได้อย่างรวดเร็ว
>ผู้ที่ชื่นชอบการจัดเก็บข้อมูลบนเครือข่ายที่พยายามปลดปล่อยความเร็วในการอ่าน/เขียนของระบบของคุณ
หากมีข้อใดข้อหนึ่งตรงกับความต้องการของคุณ แสดงว่าคุณควรอัพเกรดอุปกรณ์เครือข่ายของคุณให้ใช้งานในระดับ Multi-Gig เพื่อการใช้งานเครือข่ายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและเพลิดเพลินกับการใช้งานได้อย่างลื่นไหล
การอัพเกรดเครือข่ายของคุณให้รองรับความเร็วแบบ Multi-Gig
ขั้นที่ 1: เปลี่ยนแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตของคุณเป็นแบบ Multi-Gig เพื่อการรับส่งข้อมูลที่รวดเร็ว
การเลือกแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งสำคัญในการรับส่งข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตในระดับ Multi-Gig เพื่อไม่ให้การรับส่งข้อมูลเกิดปัญหาคอขวดจากการโดนจำกัดความเร็วของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ
ขั้นที่ 2: เปลี่ยนสายเชื่อมต่อให้รองรับความเร็วสูง
ถึงแม้ว่าคุณจะเปลี่ยนแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตให้เร็วขึ้นในระดับ Multi-Gig หรืออัพเกรด NAS Server ให้มีพอร์ต 10G แล้วก็ตาม ความเร็วในการรับส่งข้อมูลของคุณอาจถูกจำกัดจากการใช้สายเคเบิลที่ไม่ถูกต้อง คุณควรเลือกสายเคเบิลที่รองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูง เพื่อการรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็วเต็มประสิทธิภาพ
|
ความเร็วสูงสุดที่ระยะสาย 100 เมตร |
CAT5e |
5 Gbps |
CAT6: Unscreened |
5 Gbps |
CAT6: Screened |
10 Gbps |
CAT6A |
10 Gbps |
CAT7 |
10 Gbps |
CAT7A |
10 Gbps |
|
ระยะสายสูงสุดที่ความเร็วระดับ 10 Gbps |
CAT6: Unscreened |
55 meters |
CAT6: Screened |
100 meters |
CAT6A |
100 meters |
CAT7 |
100 meters |
CAT7A |
100 meters |
*ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลการส่งสัญญาณระยะทางสูงสุดสำหรับความเร็ว ใน 10 Gbps บนมาตรฐานสาย CAT5E ที่ได้จากการวัดจริงของห้องปฏิบัติการ TP-Link ระยะทางสูงสุดสามารถเข้าถึงความเร็ว 10 Gbps ได้คือ 70 เมตร ไม่รับประกันระยะการส่งสัญญาณจริง และจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม
ขั้นที่ 3: เปลี่ยนอุปกรณ์เครือข่ายให้รองรับการเชื่อมต่อแบบ Multi-Gig เพื่อปลดปล่อยศักยภาพออกมาอย่างเต็มที่
คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนอุปกรณ์เราเตอร์ที่มาพร้อมกับพอร์ต Multi-Gig ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายในบ้านเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนอุปกรณ์ให้สามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อระดับ Multi-Gig ได้มากขึ้น ควรมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ Switch ที่รองรับการเชื่อมต่อระดับ Multi-Gig เพื่อให้เครือข่ายภายในบ้านของคุณสามารถรับส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
ขั้นที่ 4: อัพเกรดอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเพื่อรองรับการใช้งานความเร็วสูง
อุปกรณ์ PC ระดับสูงและอุปกรณ์ NAS บางรุ่นมาพร้อมกับพอร์ต Multi-Gig Ethernet ในตัว หากอุปกรณ์ของคุณไม่รองรับการเชื่อมต่อระดับ Multi-Gig คุณสามารถติดตั้งอุปกรณ์ Network Interface Controllers (NIC) แบบ Multi-Gig ให้กับอุปกรณ์ของคุณได้—โดยส่วนมากจะมาในรูปแบบของการ์ด PCI-E หรือ Thunderbolt
ค้นหาผลิตภัณฑ์ Multi-Gigabit ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
Multi-Gig Routers
AX6000 8-Stream Wi-Fi 6 Router with 2.5G Port
พอร์ตเชื่อมต่อ : 1× 2.5 Gbps WAN/LAN Port + 1× Gigabit WAN/LAN Port + 3× Gigabit LAN Ports, 1× USB 3.0 Port
Archer AX80 มาพร้อมกับพอร์ต 2.5 Gbps WAN/LAN 1 ช่อง พอร์ต 1 Gbps WAN/LAN 1 ช่อง + พอร์ต Gigabit LAN 3 ช่อง และพอร์ต USB 3.0 อีก 1 ช่อง เพื่อตอบสนองการรับส่งข้อมูลผ่านสายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี WiFi 6 8-Steam รองรับการใช้งานอุปกรณ์พร้อมกันได้มากขึ้น
AX3000 Multi-Gigabit Wi-Fi 6 Router with 2.5G Port
พอร์ตเชื่อมต่อ : 1× 2.5 Gbps WAN/LAN Port + 1× Gigabit WAN/LAN Port + 3× Gigabit LAN Ports, 1× USB 3.0 Port
อุปกรณ์มาพร้อมกับพอร์ต 2.5 Gbps และพอร์ต 1 Gbps ให้คุณใช้งานอินเทอร์เน็ตระดับกิกะบิตจากผู้ให้บริการของคุณได้อย่างเต็มสปีด ทลายขีดจำกัดในการรับส่งข้อมูลผ่านสาย ให้อุปกรณ์ของคุณทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พอร์ตรองรับ WAN/LAN เพื่อการใช้งานได้ตามความต้องการ
Multi-Gig Mesh System
AX7800 Whole Home Mesh WiFi 6 System
พอร์ตเชื่อมต่อ : 1× 2.5 Gbps port + 2× Gigabit ports per Deco unit (WAN/LAN auto-sensing)
Deco X95 มาพร้อมกับเทคโนโลยี WiFi 6 แบบ Tri-Band ให้ความเร็วในการเชื่อต่อแบบไร้สายอันน่าทึ่ง เพื่อการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง รองรับการเชื่อมต่อมากขึ้นและครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น อีกทั้งยังมาพร้อมกับพอร์ต 2.5 Gbps และพอร์ตกิกะบิต 2 ช่อง รองรับการใช้งาน WAN/LAN เพื่อการรับส่งข้อมูลจากผู้ให้บริการได้อย่างเต็มสปีด เพื่อการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
AXE5400 Tri-Band Mesh Wi-Fi 6E System
พอร์ตเชื่อมต่อ : 1× 2.5 Gbps port + 2× Gigabit ports per Deco unit (WAN/LAN auto-sensing)
ปลดล็อกความสามารถในการรับส่งข้อมูลแบบไร้สายด้วยเทคโนโลยี WiFi 6E ที่มาใน Deco XE75 Pro ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้รองรับการใช้งานปริมาณมาก ด้วยความเร็วที่มากขึ้นและครอบคลุมพื้นที่ได้มากขึ้น รวมไปถึงพอร์ต 2.5 Gbps 1 ช่อง และพอร์ดกิกะบิต 2 ช่อง รองรับการใช้งาน WAN/LAN เพื่อการรับส่งข้อมูลจากผู้ให้บริการได้อย่างเต็มสปีด เพื่อการใช้งานได้อย่างต่อเนื่องไม่มีสะดุด
Multi-Gig Switches
8-Port 10G Desktop/Rackmount Switch
พอร์ตเชื่อมต่อ : 8× 100Mbps/1Gbps/2.5Gbps/5Gbps/10Gbps Ports, Auto-Negotiation, Auto-MDI/MDIX
8-Port 2.5G Desktop Switch
พอร์ตเชื่อมต่อ : 8× 100Mbps/1Gbps/2.5Gbp Ports, Auto-Negotiation, Auto-MDI/MDIX
Multi-Gig Network Interface Controllers (NIC)
10 Gigabit PCI Express Network Adapter
พอร์ตเชื่อมต่อ : 1× PCI Express 3.0 x4, 1× 10GBaseT RJ45 Port
2.5 Gigabit PCIe Network Adapter
พอร์ตเชื่อมต่อ : 1× PCI Express 2.1 x 1, 1× RJ45 Gigabit/Megabit Port
TP-Link ได้ขับเคลื่อนเทคโนโลยี Multi-Gigabit ให้เกิดการใช้งานอย่างแพร่หลาย เรานำเสนอโซลูชั่น Multi-Gigabit ที่ครอบคลุมสำหรับผู้ใช้ตามบ้านและผู้ใช้ทางธุรกิจ หากคุณกำลังมองหาการเชื่อมต่อความเร็วสูงด้วยเครือข่ายที่เหมาะสมกับการใช้งานของท่านและราคาไม่แพง โซลูชัน TP-Link Multi-Gigabit คือตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ